Health5choice

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ ระบบกล้ามเนื้อ (Muscular system)

ระบบกล้ามเนื้อ

โดยพื้นฐานแล้วกล้ามเนื้อเชื่อมโยงกับความแข็งแรงของร่างกาย โดยช่วยคงรูปร่างท่าทาง ยึดข้อต่อต่างๆเข้าไว้ และช่วยในการเคลื่อนไหวของร่างกาย ควบคุมการเดิน พูด นั่ง ยืน รับประทานอาหารและกิจวัตรประจำวันอื่นๆ รวมถึงการยิ้มและการแสดงออกทางสีหน้า ดวงตา นอกจากนี้กล้ามเนื้อยังช่วยให้การทำงานของระบบต่างๆภายในร่างกายดำเนินไปได้ เช่น การเต้นของหัวใจ การบีบตัวของเส้นเลือด กระเพาะอาหาร ลำไส้ การทำงานของปอด เป็นต้น  

 

ชนิดของกล้ามเนื้อ

กล้ามเนื้อในร่างกาย สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดดังนี้
  1. กล้ามเนื้อลายหรือกล้ามเนื้อโครงร่าง (Skeleton muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่ทำงานอยู่ภายใต้อำนาจจิตใจ (Voluntary muscle) ควบคุมโดยระบบประสาทส่วนกลาง เป็นกล้ามเนื้อที่มีมากที่สุดในร่างกาย กล้ามเนื้อลายจะเกาะอยู่กับกระดูก และมีบทบาทสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยเซลล์ของกล้ามเนื้อลายจะมีลักษณะเป็นทรงกระบอก มีหลายนิวเคลียส และมีลายตามขวาง เรียกเส้นใยกล้ามเนื้อ (Muscle fiber) และหลายๆเส้นใยกล้ามเนื้อรวมกันเป็นมัดกล้ามเนื้อ หลายๆมัดกล้ามเนื้อขนาดเล็กรวมกันเป็นมัดกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ แต่ละเซลล์ของกล้ามเนื้อลายจะมีปลายประสาทมาเลี้ยง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดตัว เมื่อต้องการใช้งาน
  2. กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่ทำงานนอกอำนาจจิตใจ (Non-voluntary muscle) พบที่อวัยวะภายในของร่างกาย เช่น หลอดอาหาร หลอดเลือด ลำไส้ เซลล์มีนิวเคลียสเดียว และไม่มีลายตามขวาง ที่เยื่อหุ้มเซลล์จะมีบริเวณที่ถ่ายทอดกระแสประสาทไปยังเซลล์ข้างเคียง การหดตัวของกล้ามเนื้อประเภทนี้จะถูกควบคุม โดยระบบประสาทอัตโนมัติ ดังนั้นกล้ามเนื้อประเภทนี้จึงไม่มีปลายประสาทไปเลี้ยงทุกเซลล์ ยกเว้นบางอวัยวะภายใน
  3. กล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiac muscle) เป็นกล้ามเนื้อที่ทำงานนอกอำนาจจิตใจ (Non-voluntary muscle) ถูกควบคุมโดยระบบประสาทอัตโนมัติ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจจะมีลักษณะเป็นลายพาดขวาง และมีหลายนิวเคลียสเช่นเดียวกับกล้ามเนื้อลาย

 

การทำงานของกล้ามเนื้อ

กล้ามเนื้อโครงร่างจะมีปลาย 2 ข้างยึดเกาะกับกระดูก ข้างที่เกาะกับกระดูกส่วนใกล้ลำตัวเรียก จุดเกาะต้น ส่วนที่อยู่ปลายอีกด้านเรียก จุดเกาะปลาย โดยส่วนที่เกาะกับกระดูก จะมีลักษณะเป็นเอ็นสีขาวเรียก เอ็นกล้ามเนื้อ (Tendon) ทั้งนี้การทำงานของกล้ามเนื้อจะประสานในทิศทางตรงกันข้ามเป็นคู่ๆ (Antagonism) ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสมองสั่งให้เรางอแขน กล้ามเนื้อไบเซพ (Biceps muscle) จะหดตัว และกล้ามเนื้อไตรเซฟ (Triceps muscle)จะคลายตัว กรณีที่เราเหยียดแขน กล้ามเนื้อไบเซฟจะคลายตัว และกล้ามเนื้อไตรเซฟจะเปลี่ยนมาหดตัว เป็นต้น ปกติแล้วกล้ามเนื้อสามารถหดตัวได้ราว 1 ใน 3 ของความยาวปกติ ยิ่งมีการหดตัวมาก กล้ามเนื้อก็ยิ่งแข็งและหนาขึ้น

 

แหล่งที่มา : www.health2click.com
ภาพประกอบจาก : www.shutterstock.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

9 ข้อถามตอบ ข้าวเพื่อสุขภาพ รู้ครบจบที่เดียว

กองบรรณาธิการ

เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ ระบบไหลเวียนโลหิต (Circulatory system)

กองบรรณาธิการ

7 นิสัยเสียหลัก ๆ ไม่รีบแก้ สุขภาพแย่แน่นอน

กองบรรณาธิการ

6 ข้อต้องรู้ สำหรับการกินเพื่อสุขภาพ

กองบรรณาธิการ

เรื่องของน้ำตาลในเลือด

กองบรรณาธิการ

9 สิ่ง ที่ทำเป็นประจำสุขภาพดีได้ทุกวัย

กองบรรณาธิการ

77 comments

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณ เพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก